วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สวย ใส ด้วยสมุนไพรใกล้ตัว

โดยทัวร์ดี มีคุณภาพ
http://www.centertourandtravel.com/


สมุนไพรที่กำลังจะแนะนำให้รู้จักและนำไปใช้กันอยู่นี้ดีจริง ๆ รักษาผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาผิวพรรณไม่สวย เป็นสิวเป็นฝ้าได้ผลดีทีเดียว แถมใครที่มีผิวพรรณสวยอยู่แล้วก็ยังสามารถใช้บำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งยิ่งขึ้นไปอีก
สมุนไพรที่แนะนำให้ใช้ คือ ว่านหางจระเข้ ขมิ้นชัน มะขาม มะนาว สมุนไพรทั้ง 4 ตัวนี้เป็นสมุนไพรที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วในรูปของการใช้รักษาโรค แล้วสมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณช่วยเสริมความงามได้อย่างไร
ว่านหางจระเข้ ช่วยให้ใบหน้าสวยเปล่งปลั่ง
ว่านหางจระเข้จะช่วยให้ใบหน้าคุณสวยเปล่งปลั่งได้อย่างไรบ้าง
1.  สามารถรักษาผิวไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือผิวที่ถูกแสงแดดเผาไหม้จนเกรียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว ว่านหางจระเข้นี้จัดเป็นยาเย็น ส่วนมากใช้แล้วจะรู้สึกเย็นสบายบริเวณผิวหนังที่แสบร้อนจากการเผาไหม้
วิธีใช้ นำว่านหางจระเข้สักก้านหนึ่งเลือกก้านที่แก่ ๆ สักหน่อย ล้างน้ำให้สะอาดฝานเอาเปลือกออก ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้งอย่าให้มีเมือกสีเหลือง ๆ ติดอยู่ เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ให้ใช้แต่วุ้นสีขาวเอาไปทา หรือถ้าเป็นแผลจากน้ำร้อนลวกและไฟไหม้ ก็ฝานวุ้นว่านหางจระเข้ไปวางทับที่ปากแผล
2.  สามารถช่วยลดอาการที่เกิดจากผื่นคันที่มีสาเหตุมาจากการแพ้สารเคมีต่าง ๆ ใครที่ผ่านการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีเยอะกัดผิวหน้าจนแดงเป็นปื้น หันมาใช้ว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาดีกว่า จะได้ฟื้นฟูสภาพผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งเหมือนเดิม
วิธีใช้ เช่นเดียวกับการรักษาแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
3.  ลบรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวและฝ้าบนใบหน้า หลายคนที่เจอกับปัญหานี้ ก็ลองหันมาใช้ว่านหางจระเข้รักษาดู ในกลุ่มวัยรุ่นมักจะเจอปัญหารอยแผลเป็นจากสิว ใบหน้าเป็นจุดด่างดำ แต่ขอแจ้งให้ทราบนิดหนึ่งว่าอย่านำว่านหางจระเข้ไปใช้รักษาสิว เพราะตัวมันเองไม่มีสรรพคุณเช่นนั้น แต่ในกรณีที่เป็นสิวที่มีหนอง หัวใหญ่ก็สามารถใช้แหะที่หัวสิวนั้นได้ เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบได้ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงานขึ้นมาหน่อยก็มักจะเจอปัญหาใบหน้าเป็นฝ้า จุดด่างดำ เพราะอายุมากขึ้น
วิธีใช้ ก็ใช้เมือกวุ้นที่ล้างสะอาดแล้วทาบริเวณที่เป็นฝ้านั้นทุกวันเช้า-เย็น ระยะเวลาติดต่อกันนานเป็นเดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล สำหรับคนผิวมันนั้นสามารถใช้ว่านหางจระเข้ตัวเดียวได้ แต่สำหรับคนที่มีผิวแห้งควรจะใช้ควบคู่กับครีมบำรุงผิวประเภทให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า
มะนาว : รักษาสิวลดผิวมันบนใบหน้า
มะนาวเป็นสมุนไพรในครัวเรือนที่ใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หลังบีบเอาน้ำมะนาวไปใช้แล้ว เปลือกมันยังนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย โดยการนำไปทาตามบริเวณข้อศอก หัวเข่าหรือส้นเท้าแตก จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นนุ่มนวล และขาวขึ้นได้
วิธีการรักษาโดยใช้มะนาว
1.  ใครที่เป็นสิวเป็นฝ้าให้ใช้น้ำมะนาวทาบาง ๆ บนใบหน้าทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ใช้ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีสิวมาเยือน น้ำมะนาวเป็นยามีฤทธิ์ลดการอักเสบ ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ป้องกันโรคที่ทำลายผิวหนัง อย่างสิวก็จัดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง
2.  รักษาผิวมัน ใครที่มีปัญหาผิวมันคงรู้สึกเหนอะหนะรำคาญเหมือนกัน ประเดี๋ยวก็ต้องควักกระดาษซับมันมาซับความมันบนใบหน้าบ่อย ๆ แต่งหน้าก็ไม่ค่อยสวย เป็นต้น  กรณีนี้มะนาวช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ โดยใช้มะนาวผสมกับน้ำมันทาผิว ใช้เป็นประจำผิวคุณจะสวย นุ่มนวลและหายมันไปเลย
3.  สำหรับคนที่ผิวแห้งก็ใช้ได้ เพียงแต่ตอนใช้นั้นต้องเพิ่มน้ำมันมะกอกหรือกลีเซอรีนเข้าไปอีกตัวหนึ่ง จะช่วยทำให้ผิวไม่แห้งเป็นขุยได้
ครีมมะนาวสำหรับบำรุงผิว
ส่วนผสม
1.  น้ำมะนาว 20 ส่วน
2.  กลีเซอรีน 72 ส่วน
3.  การบูร 7 ส่วน
4.  น้ำหอมแต่งกลิ่น 1 ส่วน
วิธีผสม
นำส่วนผสมทั้งหมดผสม คนให้เข้ากันจะได้ส่วนผสมที่เหนียวพอสมควร
วิธีใช้
ใช้ทาก่อนนอนทุกคืน จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้สวย ขาว นุ่มนวลอย่างมากทีเดียว
ขมิ้น : ลดการอักเสบของผิวสวยจากสิว
จะใช้ขมิ้นอ้อนหรือชมิ้นชันก็ได้ เพราะทั้งสองชนิดมีสารระเหยที่เป็นประโยชน์อยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว ขมิ้นนี้จัดว่าเป็นยาที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้อย่างดีทีเดียว พบว่า มีการนำขมิ้นมาใช้ทาตัวเด็กทารกที่มักจะเป็นผดผื่นขึ้นตามตัวประมาณ 3-5 วัน หรือทำบ่อย ๆ ผดผื่นนั้น จะแห้งและตกสะเก็ดไปเอง และสามารถช่วยลดอาการคันได้อีกด้วย
ใครที่มีปัญหาเรื่องสิว ให้นำขมิ้นที่ตากแห้งและบดเป็นผง มาผสมน้ำ ทาบาง ๆ บนใบหน้าเช้า-เย็น หรือเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้นก็ได้ไม่ผิดกติกา ผงขมิ้นจะช่วยให้หัวสิวแห้งและตกสะเก็ดเหมือนกับที่ใช้รักษาผดผื่นในเด็ก
สรรพคุณของการใช้ขมิ้นเพื่อรักษาผิวพรรณให้สวยนั้นต้องยกให้ชนชาติพม่า  เพราะใช้มานานจนขึ้นชื่อไปทั่วโลก สาวคนไหน ก็อยากมีผิวสวยอย่างสาวพม่ากันทั้งนั้น สำหรับสาวในเมืองไทย นั้นก็มีบันทึกว่าใช้ขมิ้นเพื่อความงามมานานแล้วไม่น้อยเหมือนกัน หลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วสาว ๆ ก็จะใช้ขมิ้นผงหรือขมิ้นสดลูบไล้ทั่วผิวหน้าและเรือนร่าง เพื่อเพิ่มความงามความผุดผาดของผิวพรรณ
มะขาม : ช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้งกระด้างเป็นขุย
มะขามเป็นความงามจากก้นครัวอีกชนิดหนึ่งที่ใช้กันต่อเนื่องมายาวนานบรรดาสุภาพสตรีทั้งหลายในยุคเก่าคุ้นเคยกันมากกับการนำมะขามมาใช้อาบน้ำ-ล้างหน้า แทนการใช้สบู่หรือครีมล้างหน้า และครีมอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง แสบ หรือคัน
คนที่มีปัญหาผิวแห้ง กระด้าง ขาดความชุ่มชื้น ดูแล้วไร้ชีวิตชีวา ถ้าหันมาใช้มะขามเปียกประมาณ 1 กำมือ ใช้ถูเนื้อตัวร่างกาย ทำความสะอาดผิวหน้าทุกวัน ไม่นานจะเห็นผลทันทีเลยว่าผิวที่เคยมีปัญหามาตลอดนั้นจะนุ่ม ผิวไม่แห้งเนื้อตัวไม่ตึง ไม่คัน เห็นได้ว่าผิวพรรณมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อเลย หรือท่านที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นหรือช่วงหน้าหนาวแล้ว ยิ่งน่าจะหันมาใช้มะขามเปียกแทนการใช้สบู่ แล้วคุณจะพบว่าหน้าหนาวนี้ผิวคุณจะสวยตลอดฤดูกาลนั้นทีเดียว พออาบน้ำเสร็จก็อาจจะใช้ขมิ้นลูบไล้ผิวกาย ผิวหน้าเพิ่มความสวยอีกดีกรียิ่งดีใหญ่
หรือถ้าอยากจะทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ก็ให้ใช้มะขามเปียกแช่น้ำให้เหนียว ๆ หน่อยเอามาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่า คุณจะพบว่าผิวของคุณสะอาดขึ้นอย่างมากทีเดียว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้าก็ใช้มะขามเปียกนี้รักษาได้
วิธีใช้ก็คือ เอามะขามเปียกแช่น้ำพอเหนียว แล้วเอาทั้งกากและเนื้อถูบริเวณที่เป็นฝ้าเบา ๆให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก
นอกจากนี้ยังมีสูตรการทำครีมมะขามใช้เอง สามารถใช้แทนสบู่ได้มาฝากอีกด้วย ใครที่มีปัญหาเรื่องความสวยความงามหรืออยากปรึกษาเรื่องอะไรก็ส่งจดหมายเข้ามาสอบถามกันได้
สบู่ครีมมะขามเปียก
ส่วนผสม
1.  มะขามเปียก
2.  นมสด
3. น้ำผึ้ง
วิธีทำ
1.  เอามะขามเปียกประมาณ 2-3 ฝัก แกะเอาใยออกให้หมด
2.  เอามะขามเปียกไปคั้นรวมกับนมสด 6 ช้อนแกง คั้นให้ข้นจนได้ที เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
3.  นำน้ำผึ้งผสมกับส่วนผสมที่ได้จากข้อสองแล้วคนให้เข้ากัน (สัดส่วนของสูตรในการทำสบู่ครีมมะขามสามารถปรับได้ตามความต้องการของสภาพผิวหน้า) เสร็จแล้วให้นำไปนึ่งให้สุก เพื่อช่วยยืดอายุสามารถเก็บไว้ได้นาน
วิธีใช้ ใช้เวลาล้างหน้าหรืออาบน้ำ ใช้ครีมทาบาง ๆ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออก
สรรพคุณ ใช้ล้างหน้าแทนสบู่ ชำระสิ่งสกปรก รักษาฝ้า ทำให้ผิวพรรณนุ่มนวล
-----------------------------------------------------------------------------
"ทัวดี มีคุณภาพ" เซ็นเตอร์ทัวร์แอนทราเวล T. 02-191 7727-8



ที่มา : มูลนิธิสุขภาพไทย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น